ไล-บรา-รี่
ห้องสมุดกาแฟในรูปแบบเสมือนบ้าน
ให้ความรู้สึกละเมียดละไมราวกับได้นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องสมุดสไตล์โมเดิร์น
ที่มีบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะสำหรับคนรักกาแฟและหนังสือ มีชั้นวางหนังสือหลายหลายให้คุณได้เลือกกอ่าน
เน้นหนังสือดีไซน์และศิลปะ รวมถึงแมกกาซีนหลายแนว เอาไว้ให้เลือกเปิดดูได้อย่างไม่มีเบื่อ
มีที่เหลือเฟือให้ได้เลือกนั่งตามใจชอบ เปิดเพลงเบาๆ ในระดับที่ไม่รบกวนการอ่าน
บางคนชอบนั่งจิบเอสเปรสโซ่รเข้มรับแอร์เย็นๆ ให้ชื่นสมอง
บ้างจับจองมุมเอาไว้ชนแก้วลาเต้กับเพื่อนๆ
ถ้าหิวก็มีบานอฟฟี่กับบราวนี่โดนัทจุ่มดิปปิ้งช็อกโกแลตเอาไว้รองท้อง
ใครอยากเปลี่ยนที่หาแรงบันดาลใจเชิญไปตักตวงไอเดียอิ่มๆ กันได้ที่นี้ “ไล-บรา-รี่ ร้านกาแฟ-ห้องสมุด
น่ารัก อบอุ่นและมีเสน่ห์…”
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
ไล-บรา-รี่ สุขุมวิท 24 Li-bra-ry
(Sukhumvit
24)
ที่ตั้ง: ซอยุขุมวิท 24
แยกซอยเมธีนิเวศน์ ถนนุขุมวิท
โทร: 0-2259-2878
เปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 07.00-21.00 น.
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
การตกแต่งที่มีความเก๋ไก๋ออกสไตล์คาเฟ่ญี่ปุ่น ใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เป็นสไตล์ไม้ๆ ตัดกับโทนสีขาว รอบร้านเป็นกระจกใส
ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง นั่งสบาย ที่ร้านมีทั้งที่นั่งด้านนอกและด้านใน
รอบร้านจะปลูกต้นไม้ไว้รายล้อม เวลาที่มองผ่านกระจกก็จะเห็นสีเขียวๆ
ทำให้รู้สึกสดชื่น สบายตา ถ้านั่งในช่วงฝนตกก็จะได้บรรยากาเย็นชุ่มฉ่ำ
ไอเดียการตกแต่งร้านมีการใส่ดีเทลเก๋ๆ
สไตล์ญี่ปุ่นไว้ตามมุมต่างๆ ของร้าน อย่างพวกโคมไฟ ฝาผนังลายอิฐ
หรือถ้วยชามที่ใช้ตกแต่ง และก็คงความเป็นไล-บรา-รี่
สมชื่อ โดยโซนด้านในจะมีชั้นวางหนังสือกับโซฟายาว โซฟาหนานุ่ม นั่งสบาย
ส่วนหนังสือก็จะวางไว้ที่ชั้นให้ได้เลือกอ่านกันตามใจชอบ
ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสืองานอดิเรกต่างๆ อย่างหนังสือท่องเที่ยว หนังสือจัดสวน
หนังสือทำอาหาร และนิตยสารแฟชั่น
ที่นี้น่าจะเป็นร้านโปรดสำหรับคนที่รักการอ่านและรักกาแฟ
ที่นี่ให้ความรู้สึกเป็นร้านที่นั่งสบาย และบรรยากาค่อนข้างเงียบ เหมาะกับการไปนั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานที่ต้องใช้สมาธิ
ไล-บรา-รี่ ร้านกาแฟของคนรักหนังสือ
ไล-บรา-รี่ ร้านกาแฟของคนรักหนังสือ
ไล-บรา-รี่
ห้องสมุดของคนรักกาแฟแห่งนี้ จึงเป็นที่แวะเวียนมาของคนรักหนังสือ รักกาแฟ
ที่ชอบอรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน มีเจ้าของร้านที่ใจดีที่มีการต้อนรับอย่างอบอุ่น
จึงไม่แปลกที่จะเห็นลูกค้าประจำที่แวะเวียนกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า
คงไม่ใช่เพราะติดใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่น่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของห้องสมุดร้านกาแฟแห่งนี้
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
ไล-บรา-รี่ ที่ๆรวมครบทุกส่วนผสมจนเป็นห้องสมุดของคนรักกาแฟ คุณเจี๊ยบ
เจ้าของร้านคนสวย ใจดี ได้ถ่ายทอดแนวคิดและความยากลำบากกว่าจะมาเป็นห้องสมุดของคนรักกาแฟในวันนี้
ทุกอย่างไม่ได้เกิดจาก ความบังเอิญ หรือโชคเข้าข้าง แต่เป็นความรัก ความตั้งใจ
และใส่ใจในทุกรายละเอียดต่างหาก ที่ทำให้ได้ส่วนผสมที่ลงตัวอย่างนี้
“เราไม่ต้องการเป็นร้านกาแฟ
แต่ต้องการเป็นห้องสมุด เราไม่ใช้ภาษาอังกฤษ แต่ตั้งใจให้เป็นภาษาไทย
เวลาเราไปเมืองนอก ประเทศอื่นๆ หรือไปญี่ปุ่นเห็นตัวหนังสือที่เราอ่านไม่ออก
มันกลับดูมีเสน่ห์ ไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษให้คนอ่านได้เสมอไป
และเราเลือกตัวหนังสือแบบพิมพ์ดีด เพราะ มันเรียบง่าย และมันอยู่นาน ไม่เฟี้ยวฟ้าว
ไม่แฟชั่น และ มีขีด- ขั้น เหมือนคำอ่านใน ดิคชันนารี “ คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของชื่อห้องสมุดแห่งนี้ ทุกองค์ประกอบมีคอนเซ็ปต์แน่นปึ้ก
“ ถ้าจะหวังรวยทำร้านอาหารดีกว่า
แต่ที่เลือกแบบนี้เพราะเราชอบ กำไรน้อยกว่า แต่เราอยู่กับมันได้ทั้งวัน พอวันแรกที่เปิดร้านก็แบ่งงานกันเลย
ที่แรกอยู่ตรงถนนพระรามเก้า 41
แฟนดูพวกกาแฟ เครื่องดื่ม เจี๊ยบดูพวกอาหาร ขนม เบเกอร์รี่
ตอนแรกก็ยังทำงานประจำไปด้วยทำร้านไปด้วย
แต่พอมาเปิดที่สุขุมวิท 24
ไม่มีคนดูแล ก็เลยตัดสินใจออกจากงานมาดูร้านเต็มตัว ต้องดูแลเอง เพราะไม่มีใครรักร้านเท่าเรา ”
เพราะอย่างนี้ เราถึงได้ยินเสียงทักทาย “สวัสดี ค่ะ”ทุกครั้งที่มีลูกค้าใหม่เดินเข้ามา และ “ขอบคุณค่ะ” เมื่อลูกค้ากำลังจะออกไป
“ทุกอย่างของที่นี่ก็คือคิดเองทำเองหมด
เรา 2 คน จบสถาปัตย์ทั้งคู่ นึกภาพในหัวไว้ก่อนว่าร้านจะเป็นแบบนี้ อะไรก็ได้ที่เราชอบ
จะได้อยู่กับมันได้นานๆ ก็จะเลือกเฟอร์นิเจอร์ และตกแต่งเองหมด
เฟอร์นิเจอร์ก็จะเน้นนั่งสบายเหมือนเก้าอี้ตรงนี้ แนวคิดของคนออกแบบคือเหมือนเด็กตัวอ้วนๆ
ให้นั่งสบาย นั่งเอนๆหน่อย..สีของร้านก็จะเป็นขาว น้ำตาล ต้องการให้ดูสบายๆอบอุ่น
เหมือนบ้าน ไม่ชอบยุโรป อเมริกันจ๋า ให้ดูเป็นเอเชียๆ อยู่ได้นานๆ “
ส่วนแนวคิดของอาหาร และกาแฟ
ก็มาจากความรัก ความชอบของคน 2 คนอีกเช่นกัน
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
ไล-บรา-รี่ ห้องสมุดนี้มีบาริสต้า
บทสัมภาษณ์
![]() |
คุณเจี๊ยบ ปานใจ เภตรา (เจ้าของร้าน)
|
![]() |
| คุณเป็ม พลวิทย์ เภตรา (เจ้าของร้าน) |
“ฝันไว้นานแล้วล่ะว่าอยากมีร้านอะไรสักอย่างเกี่ยวกับอาหารการกิน”
เป็นคำตอบที่เธอบอกกับเรา
เมื่อถูกถามถึงที่มาของของคาเฟ่แสนสวยที่มีหนังือให้อ่านเยอะ ในซอยสุขุมวิท 24
“ฝันไว้นานแล้วล่ะว่าอยากมีห้องสมุดหนังสือ
ดีไซน์ที่มีพื้นที่แสดงงานศิลปะ” เป็นคำตอบที่เขาบกับเรา เมื่อถูกถามถึงที่มาของห้องสมุดที่ดื่มกาแฟได้
ในซอยพระรามเก้า 41 ทั้งสองถานที่มีชื่อเรียกเดียวกันว่า “ไล-บรา-รี่” คิด ออกแบบ และสร้างโดยเธอและเขา
คุณเจี๊ยบและคุณเป็ม ปานใจ-พลวิทย์
เภตรา สองามีภรรยาที่เป็นทั้งสถาปนิก บาริสต้า
และบรรณารักษ์
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
ก่อนที่จะมีไล-บรา-รี่
“เราเป็นแฟนกัน”
คุณเป็มเปิดด้วยมุขตลกพร้อมด้วยหัวเราะเขินๆ “ตอนที่แต่งงาน
เจี๊ยบยังเป็นพนักงานบริษัท ส่วนผมเปิดบริษัทออกแบบ
แต่เรามีความฝันมาตั้งนานแล้วล่ะ
ว่าอยากมีพื้นที่หรือร้านอะไรสักอย่างเกี่ยวกับอาหาร แต่ก็มีพื้นที่ให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับศิลปะและดีไซน์ด้วย”
คุณเจี๊ยบเล่าบ้าง
“เราชอบกิน ชอบเที่ยว
ชอบดูหนังสือสวยๆ ชออบไปที่สวยๆ ชอบทำอาหาร อยู่บ้านก็ทำขนมตลอด แรกๆก็กินได้มั้ง
ไม่ได้มั้ง ไปเรียนมาด้วย ทั้งแบบโรงเรียนฝึกอาชีพบ้านๆ ไปจนถึงร้านทำอาหารไฮโซ
มความรู้มาเรื่อยๆ”
คุณเจี๊ยบค่อยๆ หยอดประบการณ์การปรุงอาหารและขนมหวานไว้จนเต็มกระปุกใบใหญ่
เก็บภาพร้านในฝันแปะบอร์ดในใจจนแทบไม่มีที่ว่าง แล้วอยู่มาวันหนึ่ง…
“พี่เป็ม
ดูบ้านนี้หน่อยสิ” คุณเจี๊ยบปลุกามีกลางดึก
ชี้ให้ดูรูปบ้านหลังสีขาวใต้ต้นไม้ใหญ่ในพระรามเก้าที่มีคนประกาศให้เช่าทางอินเตอร์เน็ต
พร้อมชวนกันไปดูถานที่ “ขับรถกันไปดูกลางคืนนั้นเลย ง่วงมาก” คุณเป็มสารภาพ
“เจี๊ยบชอบที่ตรงนั้นมาก กลัวมันจะหลุดซะก่อน เลยชวนพี่เป็มไปดู
อุ้มลูกไปด้วย มืดๆ นั้นแหละ ดูแล้วชอบ เลยโทรหาเจ้าของที่ทันที
นัดคุยเรื่องเช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าของที่ยังบอกเลยว่าถ้ามาช้าว่ากว่านี้อาจไม่ได้
เพราเค้านัดอีกคนไว้เหมือนกัน” คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังอย่างตื่นเต้น “พอเห็นที่ปุ๊ป
เราก็รู้เลยว่าต้องทำอะไรกับมันบ้าง จะทุบตรงไหน จะรื้ออะไร จะปรับอะไร
เพราะสภาพร้านตอนนั้นยับเยินมาก เคยเป็นทั้งร้านซีฟู้ด ร้านลาบเป็ด มีหลังคาทึบๆ
โรงครัวใหญ่ๆ ” ด้วยสายตานักออกแบบ คุณเป็มมิงเห็นภาพทันทีว่าร้านไล-บรา-รี่ ของพวกเขาจะเป็นแบบไหน ทั้งสองใช้เวลา 4 เดือนในการปรับปรุงร้าน โดยคุณเป็มดูแลเรื่องโครงสร้าง ปรับทางเข้า
ย้ายที่จอดรถ ทุบผนังปูนเปลี่ยนเป็นผนังกระจก ส่วนคุณเจี๊ยบออกความเห็นเรื่องการตกแต่งภายใน
บรรยากาศโดยรวมของร้าน การเลือกเฟอร์นิเจอร์และหน้าตาเมนูอาหาร
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
ไล-บรา-รี่
“ไล-บรา-รี่ ใช่ร้านกาแฟนะ แต่ว่าเป็นไล-บรา-รี่” คุณเป็มยืนยันหนัหแน่น
เห็นเรางงคุณเจี๊ยบเลยเฉลยว่า “ไล-บรา-รี่ เป็นอะไรก็ได้ เป็นห้องสมุดก็ได้ เป็นสถานที่นัดพบก็ได้
เป็นห้องกินขนมก็ได้ ง่ายๆ คือห้องสมุดที่มีกิจกรรม
แต่กิจกรรมที่เหมาะกับการอ่านหนังสือคืออะไรล่ะ คิดไปคิดมาเลยตกลงว่า
เป็นกาแฟล่ะกัน เพราะพี่เป็มชอบดื่มกาแฟ”
เมื่อตกลงปลงใจว่าไล-บรา-รี่จะมีเครื่องดื่ม คุณเจี๊ยบไม่รอช้า เร่งศึกษาเรื่องกาแฟอย่างแท้จริง
เริ่มสั่งเมล็ดกาแฟ สั่งเครื่องชง เครื่องปั่น และวัตถุดิบต่างๆ มาลองทำ
เปิดตำราเรียนรู้แก้วต่อแก้ว จนกระทั้งได้สูตรที่พอใจ “กว่าจะได้แต่ละเมนู
ต้องลองแล้วลองอีก เมื่อได้สูตรที่พอใจก็จะจดไว้ อย่าง Strawberry Yoghurt
Smoothie เราลองเป็นสิบสูตร แค่ส่วนผสมต่างกันนิดเดียว
รสชาติก็เปลี่ยนแล้ว ปรากฎว่าสูตรที่รสชาติดีที่สุด ต้องใส่โยเกิร์ตใส่ทั้งกระปุก
แต่ถ้าใส่น้ำแข็งน้อยไปมันจะข้น ต้องใส่น้ำแข็งเยอะหน่อย พอใส่น้ำแข็งเยอะ
เวลาเทก็จะเหลือ แต่ถ้าลดปริมาณวัตถุดิบเพื่อให้พอดีกับขนาดแก้ว มันก็ไม่อร่อย
สุดท้ายเราก็ยอมเหลือเพื่อให้ได้สูตรที่อร่อยที่สุด ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้กินเอง”คุณเจี๊ยบเล่าถึงที่มาของความอร่อยซึ่งหลายคนไม่เคยรู้
แต่มีเครื่องดื่มอย่างเดียวคงจะเหงาไป เธอเลยเพิ่มนขมหวานและอาหารเผื่อกินแกล้มด้วย
“เจี๊ยบเค้าคิดเรื่องเมนูตั้งต่าเริ่มตกแต่งร้านแล้วล่ะ
คิดควบคู๋กันไปว่าคอนเซ็ปต์ร้านเป็นแบบนี้ เมนูจะ เป็นแบบไหน ลิสต์เมนูยาวเหยียด
กลางคืนเลิกงานก็จะมาถามผมล่ะ เอาอันนี้มั้ยๆ สุดท้ายสรุปได้ว่ามีมนู เป็นเค้กกับเครื่องดื่ม
แลเมนูอิ่มท้องำหรับคนที่หิวจริงๆ แล้วพอไดเร็คชั่นร้านมันชัดเจน
รายละเอียดที่เหลือก็ตามมา ทั้งกราฟฟิก โลโก้ แพ็กเกจจิ้ง” คุณเป็มนักออกแบบประจำร้านเล่าบ้าง
สามปีที่แล้วที่ไล-บรา-รี่ กลายเป็นสถานที่แสนสวย นั่งสบาย
มีหนังสือดีให้อ่าน มีขนม ขนมหวาน อาหารอร่อย และด้วยกำลังใจ จากทุกคนที่แวะไปเยี่ยมเยือน
จึงทำให้เกิดไล-บรา-รี่ แห่งที่สองขึ้น
![]() |
| ไล-บรา-รี่ (สุขุมวิท 24) |
Li-bra-ry [สาขานี้…อินเตอร์]
“พอได้ลงมือทำมันก็สนุก
มีความสุข ได้เจอคน ได้ทำอาหารที่เราชอบและลูกค้าชอบ เลยเริ่มติดพัน แต่มีปัญหาที่ว่าพระรามเก้า
ลูกค้าเดินทางมาไม่ค่อยสะดวก เราเลยมีความคิดว่าต้องมีไล-บรา-รี่ในเมืองบ้างแล้วล่ะ”
คุณเจี๊ยบเล่าถึงที่มาของสาขาที่สอง
ในซอยสุขุมวิท
24 “เราก็วนดูที่กันใหม่
แล้วก็จังหวะตัดินใจเร็วเหมือนเดิม” เธอเล่าพลางหัวเราะร่วน
“วันนั้นพี่เป็มยังไม่ว่าง
เลิกงานแล้วเจี๊ยบนั่งรถไฟฟ้ามาดูก่อน ปรากฎว่าชอบ ไม่ยอมกลับบ้าน นั่งรอจนดึก
ให้พี่เป็มตามมาดู” “พอผมเห็นก็ถูกใจ
วันรุ่งขึ้นก็คุยเรื่องเช่าเหมือนเดิม และก็ต้องปรับปรุงร้านใหม่ เยอะเหมือนเดิม
ใช้เวลานานกว่าเดิม คาวนี้ตั้ง 5 เดือนแน่ะ” คุณเป็มตามมาสมทบพร้อมด้วยเยงหัวเราะเช่นกัน
และแล้วไล-บรา-รี่
แห่งที่สองก็ถือกำเนิด นอกจากจะมีหน้าตาร้านและโลเคชั่นใหม่
เมนูก็หลากหลายขึ้นกว่าเดิมด้วย “ร้านใหม่อยู่สุขุมวิท
มีชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเยอะ เราเลยเพิ่มเมนูที่เป็นอาหารญี่ปุ่นและอาหารฝรั่งเข้าไปด้วย
กว่าจะได้แต่ละเมนูนานมาก” คุณเจี๊ยบเล่า “ คิดแล้วคิดอีก บางอย่างจำเป็นต้องซื้อวัตถุดิบมาปรุง
เราก็ต้องเสาะแสวงหาทุกสารทิศ เพื่อให้ได้ของที่อร่อยที่สุด อย่าเกี๊ยวซ่า
ตอนช่วงทดลองเมนูเกี๊ยวซ่าเต็มบ้านเลย เต็มตู้เย็นบ้านตนเองไม่พอ
ยังลามไปถึงตู้เย็นบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่เป็มด้วย เอามาลองทอดลองต้ม ลองแบบกรอบมั่ง
ไม่กรอบมั่ง ทอดแบบจี่มั้ง แล้วน้ำจิ้มล่ะจะเอาแบบไหน จะปรุงยังไง
จะจัดใส่จานยังไง แล้วเมนูอื่นๆ ล่ะ จะเป็นอาหารญี่ปุ่นทั้งหมดเลยไหม
หรือจะเป็นอาหารไทย แล้วอาหารฝรั่งล่ะ คิดแล้วคิดอีก
เพราะเราตั้งใจและใช้เวลากับมันมาก ส่วนเรื่องที่คิดนานเป็นอันดับสอง
คือเรื่องเฟอร์นิเจอร์ มีบางส่วนที่พี่เป็มออกแบบเองกับส่วนที่เราสั่งทำ มีการปรับัดส่วนให้เหมาะม
นั่งสบาย เหมาะกับการนั่งกินอาหารด้วย แต่ก็ไม่ให้ดูเป็นร้านอาหารจนเกินไป
พื้นที่ด้านหน้าร้านเป็นส่วนที่จัดไว้เพื่อนั่งทำงานได้ เลยวางโต๊ะเตี้ยๆ
ส่วนด้านบนเป็นพื้นไม้นั่งบนเบาะกับพื้นก็แล้วกัน บายๆ
เวลาคนมาเป็นคู่จะได้นั่งจู๋จี๋ นั่งพิงกันได้ มีโต๊ะเตี้ยๆ ไว้วางขนม
เราก็พยายามหาคาแร็กเตอร์ให้คนขึ้นไปนั่งชั้นสองกัน คิดวกไปวนมา ปรากฎว่าคนชอบ
ขึ้นไปเยอะมาก” คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังอย่างขำๆ
ส่วนเราก็นั่งสังเกตบรรยากาศชั้นล่างของร้านที่ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันสวยสะอาดตามสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่
โทนสีอบอุ่นจากโต๊ะไม้และเก้าอี้บุเบาะนุ่ม มีชั้นหนังสือทำหน้าที่แบ่งพื้นที่ร้านพร้อมกับเป็นที่จัดวางหนังสือท่องเที่ยวและดีไซน์
ซึ่งแน่นอน…มันะท้อนบุคลิกและความชอบของเจ้าของร้านทั้งสองได้อย่างไม่ต้องงสัย
“ตอนนี้ลาออกจากงานประจำ
มาดูร้านอย่างเต็มตัวแล้ว” คุณเจี๊ยบเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงล่าสุด “พอมีสาขานี้ก็เลยอยากดูแลอย่างใกล้ชิด
ของมันรัก อยากทำให้ดี และก็ต้องทำตั้งแต่ตอนเริ่มนี้แหละ อยากจะพัฒนาไปเรื่อย
อาจจะเพิ่มเบเกอรี่ อาหาร หรือมีโปรโมชั่น อีกอย่างการได้เข้ามาดูร้าน
มันทำให้เราได้เห็นในจุดเล้กๆ เช่น ถ้าพนักงานเรายิ้มเยอะกว่านี้คงจะดีเนอะ
หรือทำไมลุกค้าไม่ชอบนั่งหน้าร้าน อ้อ…แดดมันร้อน
เราก็ลองเอาตัวเองไปนั่งให้แดดส่อง ลองเอาคอมพิวเตอร์ไปเปิดดูว่าทำงานได้ไหม
แสบตาไหม ปรากฎว่าร้อนมาก วันก่อนเลยลองเอาร่มออกไปกางอยู่หน้าร้าน เดินไปเดินมา
ดูว่ากางร่มหนึ่งเมตรมันจะบังแดดได้แค่ไหน เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่อยู่ร้านก็ไม่รู้หรอกนะ”
แม้จะไม่ได้เปิดตัวร้านใหม่อย่างเป็นทางการ
ลูกค้าก็แน่ร้านไปเรียบร้อย คุณเจี๊ยบแอบบอกเคล็ดลับง่ายๆ ว่า “ถ้าตั้งใจทำร้านให้ดี
ร้านก็จะดี คนก็จะชอบ” ฟังดูง่ายแสนง่าย
แต่อ่านมาถึงนี้ก็คงจะรู้ว่ากว่าจะได้ร้านดีๆ ที่เราช้อบชอบอย่างไล-บรา-รี่ น่ะต้องมีเบื้องหลังเป็นคนที่ทุ่มเทไปทั้งความคิดและหัวใจ…อย่างน้อยๆ ก็สองคน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.iovetogo.com
http://www.iurban.in.th/highlight/library-coffee-place
(ปองบุญ วงศ์ฉลาด ) หนังสือ Café Culture
เรื่องของคนรัก กาแฟ [ฉบับสมบูรณ์]
สำนักพิมพ์ oom, Coffee Lover Group













ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น